วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ

อภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต
........อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อโตนั้น มีมากมายสุดคณานับ ซึ่งนับแต่ท่านได้แสดงอภินิหารล่องลอยมาตามกระแสน้ำในทะเล หรือแม้กระทั่งในมหาสมุทรหรือแม้กระทั่งได้ขึ้นประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถของวัดบางพลีใหญ่ใน ซึ่งเราท่านต่างก็จงคิดดูเอาเองเถิดว่า มีหรือ ไม่มีว่าโลหะชนิดใดที่จะลอยน้ำมาได้ ซึ่งองค์หลวงพ่อโตนั้นก็เป็นทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์มีน้ำหนักมาก ถ้ามิใช่เพราะอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พลวงพ่อ ซึ่งท่านก็แสดงให้ประชาชนเห็นกันทั่ว แถบตลอดทั้งลำน้ำเจ้าพระยา หรือแม้แต่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน ซึ่งท่านประดิษฐานเป็นมิ่งขวัญของชาวบางพลี ท่านก็ยังได้แสดงอภินิหารให้ประชาชนเห็นกันอยู่บ่อยๆ
........ดังเช่นครั้งท่านประดิษฐาน อยู่ในพระวิหารเก่า บางวันที่เป็นวันพระขึ้น 15 ค่ำ กลางคืนผู้คนจะได้ยินเสียงพึมพำอยู่ในวิหารคล้ายเสียงสวดมนต์ ครั้นเมื่อเข้าไปดูก็ไม่เห็นมีใคร อยู่ในนั้นเลย นอกจากหลวงพ่อนั่งพระพักตร์ ยิ้มแฉ่งจนผู้คนที่เข้าไปดูขนลุกซู่ด้วยความเลื่อมใส บางคราวพระภิกษุและสามเณรในวัดจะเห็นภิกษุชราห่มจีวรสีคร่ำคร่า ถือไม้เท้าออกมายืนสงบนิ่งอยู่หน้าวิหาร ผู้ที่พบเห็นต่างก็เรียกกันมาดู เมื่อทุกคนเห็นพร้อมกันดีแล้ว ภิกษุชราสง่างาม มีรัศมีเปลี่งปลั่ง นุ่งขาวห่มขาว เข้ามาหาหลวงพ่อแล้วก็หายไปตรงพระพักตร์ของท่าน ซึ่งยังความปลาบปลื้มปีติแก่ผู้พบเห็น
........และข้างวิหารนั้นก็มีสระน้ำย่อมๆ อยู่ในหนึ่ง ในบางคราวก็จะมีปลาเงินปลาทองหรือปลาตะเพียนเงิน ปลาตะเพียนทอง 2 ตัว ปรากฎให้เห็นลอยเล่นน้ำคู่กันอยู่ในสระนั้น ซึ่งในสระนั้นไม่เคยมีปลาตะเพียนเงินปลาตะเพียนทองมาก่อนเลย ด้วยนิมิตนี้ทางวัดจึงได้จัดให้มีปลาตะเพียนเงิน ตะเพียนทองไว้สมนาคุณสำหรับบูชาไว้กับร้านค้าและบ้านเรือน ปรากฎว่าผู้ที่นำไปสักการะบูชา ประสบลาภผลอย่างยิ่งในการทำมาหากินและโชคลาภ ประชาชนจึงถือว่าปลาตะเพียนเงินปลาตะเพียนทองนี้ เป็นปลาคู่บารมีของหลวงพ่อโต จึงมีผู้คนต่างนำไปสักการะบูชากันมากกมาย
........เดิมก่อนนั้น หลวงพ่อโตประดิษฐานอยู่ในวิหารเก่าของวัด บางพลีใหญ่ใน ขณะที่ก่อสร้างก็ได้รื้อ วิหารหลังเก่าออกและอาราธนาชะลอองค์หลวงพ่อมาพักอยู่ที่ศาลาชั่วคราว และได้ตัดต้นพิกุล หน้าวิหารซึ่งมีขนาดใหญ่ประมาณ 3 คนโอบออกเสียเพราะเห็นว่าขึ้นใหญ่โตและเกะกะบริเวณที่จะสร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่ และในคืนวันหนึ่งตรงพื้นเบื้องหน้าห่างหลวงพ่อราว 2 ศอกเศษ ได้ปรากฎมีรอยมือรอยเท้าแสดงท่าคุกเข่ากรอบหลวงพ่อ รอยเท้าตอนเข้ามาไม่ปรากฎ ปรากฎแต่รอยเท้าตอนกลับเท่านั้น รุ่งขึ้นเช้าได้มีผู้คนแตกตื่นมาดูเป็นการใหญ่ ท่านผู้ใหญ่บางท่านบอกว่า เป็นรอยมือรอยเท้าของนางพิกุลที่มากราบหลวงพ่อ ซึ่งผู้ที่เผ้าองค์หลวงพ่อที่ศาลานั้นได้กล่าวว่า ตนเองได้กลิ่นหอมของดอกพิกุลมากจึงผงกศรีษะขึ้นดูอย่างงัวเงีย จึงได้เห็นผู้หญิงสาวสวย ผมยาวจรดบั้นเอง นุ่งผ้าและส่มสไบสีคล้ายกลีบดอกจำปามาร่ำไห้กราบลาหลวงพ่อ เมื่อกราบลา หลวงพ่อแล้วก็เดินร่ำไห้ลงบันไดไป และแสดงอภินิหารฝากรอยมือรอยเท้าให้ปรากฎไว้ให้เห็น ต้นพิกุลต้นนี้หลังจากได้ตัดแล้ว ต่อมาภายหลังได้แกะสลักเป็นรูปพระ “สังกัจจายน์” ประดิษฐาน ไว้ด้านหน้าวิหารหลังเล็กข้างพระอุโบสถ พระสังกัจจายน์นี้ซึ่งแกะด้วยต้นพิกุลนี้มีชื่อเสียงมากในทางโชคลาภ มีผู้มาขอโชคกันบ่อยๆ จนเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไปอีกสิ่งหนึ่ง
........และเมื่อสร้างพระอุโบสถเสร็จใหม่ๆ ก่อนจะอาราธนาหลวงพ่อเข้าไปประดิษฐานภายใน พระอุโบสถได้ วัดองค์ท่านกับช่องประตูพระอุโบสถ ช่องประตูใหญ่กว่าองค์ท่านประมาณ 5 นิ้ว ซึ่งส่ามารถนำท่านชะลอผ่านประตูเข้าไปได้อย่างสบายมาก ครั้นเวลาอาราธนาหลวงพ่อเข้าสู่พระอุโบสถจริงๆ กลับปรากฎว่า องค์หลวงพ่อใหญ่กว่าช่องประตูมาก จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถนำท่านผ่านประตูเข้าไปได้ คณะกรรมการและปราชาชนทั้งหลายเห็นเช่นนั้นก็พากันตกใจให้ ความเห็นว่าต้องทุบช่องประตูออกเสียให้กว้าง เมื่อนำหลวงพ่อเข้าไปแล้วค่อยทำประตูกันใหม่ แต่บางท่านให้ความเห็นว่า หลวงพ่อโตจะแสดงอภินิหารให้ทุกคนได้เห็นเป็นอัศจรรย์ก็ได้ จึงพร้อมใจกันทั่วทุกคนจุดธูปเทียนบูชาอธิษฐานขอให้หลวงพ่อผ่านเข้าประตูพระอุโบสถได้เพื่อเป็นมิ่งขวัญคุ้มครองชาวบางพลีสืบต่อไป เมื่อเสร็จจากอธิษฐานแล้ว ก็อาราธนาหลวงพ่อเข้าสู่ประตู พระอุโบสถใหม่ คราวนี้ทุกคนก็ต้องแปลกใจที่องค์หลวงพ่อผ่านเข้าประตูพระอุโบสถได้อย่างง่ายดาย โดยมีช่องว่างระหว่างองค์หลวงพ่อโตกับประตูพระอุโบสถเสียอีก นับว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ ในอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อโตยิ่งนัก
........นอกจากนั้น หลวงพ่อโตยังได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เจ็บป่วยทั้งหลายที่มาบอกเล่าบนบาน กราบนมัสการท่าน บางท่านได้นำน้ำมนต์หลวงพ่อไปเพื่อเป็นสิริมงคล ปรากฎว่าโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นนั้นหายวันหายคืน แม้กระทั่งรูปเหรียญหลวงพ่อโตชาวบ้านทั้งใกล้ไกลต่างพากันห้อยคอให้ แก่บุตรหลายของตน เพราะเมื่อเด็กเผลอพลัดตกน้ำเด็กนั้นกลับลอยได้เป็นที่น่าอัศจรรย์ ตลอดทั้ง พระเครื่องรางที่ทำเป็นรูปของพระองค์หลวงพ่อ ก็มีอภินิหารป้องกันภยันตรายต่างๆ ได้
........และมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2520 หลวงพ่อได้กระทำให้เกิดปาฎิหารย์ องค์ท่านซึ่งเป็นทองสัมฤทธิ์ เกิดนุ่มนิ่มไปหมดทั้งองค์ ดังเนื้อของมนุษย์ หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับพากันลงข่าว อันอัศจรรย์ทั่วไป ประชาชนพากันมาชมบารมีและการปาฏิหาริย์นี้อย่างเนืองแน่น และปี 2522 ก็นิ่มอีก 1 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องแปลกและมสัศจรรย์มาก
........อภินิหาร และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตนั้น มีมากมายไม่สามารถที่จะพรรณาได้หมดสิ้น ดังที่ท่านได้ทราบกันดีอยู่แล้ว ประชาชนจากที่ต่างๆ ทั้งใกล้และใกลต่างพากันมากราบนมัสการ ด้วยความเคารพเลื่อมใสในบารมีของหลวงพ่อโตมากจนสุดคณานับได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น